วัดมหาธาตุแหลมสัก เดิมชื่อ วัดแหลมสัก ตั้งอยู่บนเขาในตำบลแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ. กระบี่  เป็นวัดที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน ภายในวัดมีพระบรมธาตุเจดีย์สีขาวองค์ใหญ่สวยงาม ภายในเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ นอกจากนี้บริเวณระเบียงด้านบนยังเป็นจุดชมวิวทะเลอันดามันที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก

วัดมหาธาตุแหลมสัก แต่เดิมในช่วงปีพุทธศักราช 2490 พื้นที่บริเวณนี้เป็นเพียงพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ชาวบ้านในละแวกนี้เวลาต้องการประกอบศาสนกิจต้องเดินทางไปยังวัดสถิตโพธิ์ธารามที่อยู่ไกลออกไปราว 4.5 กิโลเมตร ในช่วงนั้นมีพระธุดงค์มาปรากฏพำนักอยู่ในบริเวณนี้อยู่เป็นระยะ เมื่อชาวบ้านทราบข่าวก็มักมากราบไหว้และนิมนต์ให้ท่านไปโปรดชาวบ้านแหลมสักอยู่ดดยตลอด ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2490 ถึง 2505 เคยมีพระธุดงค์มาพำนักอยู่หลายรูป อาทิ พระอาจารย์อำพัน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต พระอาจารย์อาจ พระอาจารย์คำผาย และพระอาจารย์จันทร์แรม ซึ่งในช่วงนั้น ชาวบ้าน พระสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้มีการจัดตั้งศาลาปฏิบัติธรรม โรงฉัน และศาลาเอนกประสงค์ขึ้น จนกลายเป็นสำนักสงฆ์แหลมสักในเวลาต่อมา

ปี พ.ศ. 2527 พระอาจารย์เนตร จิรปุญโญ และชาวบ้านแหลมสัก ได้ทำหนังสือขออนุญาตสร้างวัดถึงกรมศาสนา ซึ่งได้รับอนุมัติให้สร้างวัดได้ภายในกำหนดเวลาตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2527 ถึงวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2532 แต่เนื่องจากวัดไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง จึงได้ทำหนังสือขอใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์ เป็นที่ตั้งวัดในพื้นที่ 12 ไร่จากกระทรวงมหาดไทย ทางกระทรวงได้อนุญาตให้ใช้ที่ดินตามความประสงค์

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 กระทรวงศึกษาธิการได้ขึ้นทะเบียนยกฐานะสำนักสงฆ์แหลมสักเป็นวัดแหลมสัก โดยมีพระอาจารย์เนตร จิรปุญโญ เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมา พ.ศ. 2549 หลวงปู่เนตรได้สละตำแน่งเจ้าอาวาสเนื่องจากมีอายุมาก และได้มอบภาระการดูแลวัดให้แก่พระชูศักดิ์ ปัญญาสักโก เป็นผู้รักษาการแทน จนกระทั่งปี 2550 พระอาจารย์ชูศักดิ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดแหลมสักมาจนถึงปัจจุบัน

ประวัติความเป็นมา การก่อสร้างพระเจดีย์วัดแหลมสัก

เมื่อเดือนธันวาคม 2552 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประทานพระบรมสารีริกธาตุแก่วัดแหลมสักจำนวน 12 องค์ คณะสงฆ์และคณะกรรมการวัดแหลมสัก จึงดำริจัดสร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุความกว้าง 45 เมตร ยาว 45 เมตร และสูง 40 เมตร เริ่มต้นก่อสร้างในวันวิสาขบูชา 28 พฤษภาคม 2553 วัตถุประสงค์ในการสร้างเจดีย์ นอกจากสืบทอดแนวปฏิบัติที่ได้ทำกันมาแต่ครั้งโบราณกาลแล้ว เจดีย์บรรจุพระบรมสีริกธาตุวัดแหลมสัก ยังคงมีวาระอันเป็นมงคลอีกสามประการคือ

  1. เป็นการเฉลิมพระเกียรติครบ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในปี 2558
  2. ฉลองวันเกิดครบรอบ 90 ปี ของหลวงปู่เนตร จิรปุญโญ ในวันที่ 9 มีนาคม 2558
  3. เป็นศาสนวัตถุที่จะเป็นหลักฐานแสดงถึงการประดิษฐานของพระสัทธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภาคใต้ฝั่งตะวันตก ด้านทะเลอันดามัน คาบสมุทรอินเดีย

นอกจากนี้ การก่อสร้างองค์พระมหาธาตุเจดีย์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก ด้านอ่าวไทย คาบสมุทรแปซิฟิก ได้มีพระธาตุที่แสดงถึงความเจริญของพระบวรพุทธศาสนามาแต่ในอดีตแล้ว เช่น พระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฏร์ธานี และพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ในภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังไม่มีพระเจดีย์ขนาดใหญ่ที่จะเป็นเอกสารด้านวัตถุในอนาคตกาล อันจะแสดงถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะธรรมยุตินิกาย ที่มีพ่อแม่ครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ เช่น พระมหาปิ่น ชลิโต, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต,หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ ฯลฯ ได้เดินทางมาเผยแผ่พระสัทธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ในแถบนี้

รายละเอียดของพระมหาธาตุเจดีย์

พระมหาธาตุเจดีย์ เป็นอาคารสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง 45 เมตร ยาว 45 เมตร สูง 40 เมตร มีศาลารายล้อมอยู่ มีทางขึ้น 1 ทาง ตำแหน่งที่ตั้งตามแนวแกนของพระอุโบสถ โดยทางขึ้นด้านหน้าพระเจดีย์มีซุ้มทางเข้าอยู่และใช้เป็นสถานที่พักผ่อนได้ พระเจดีย์แบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็น 2 ชั้นรอบพระเจดีย์ โดยมีชั้นลานประทักษิณและพื้นที่ด้านในองค์พระเจดีย์ที่จะประดิษฐานพระพุทธรูป บนสุดของเจดีย์เป็นห้องประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีซุ้มจรณัมทั้ง 4 ทิศ

พระมหาธาตุเจดีย์ เป็นอาคารที่มีรูปแบบการใช้สอย คือ ใช้สำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อให้ประชาชนสามารถสักการะพระบรมสารีริกธาตุได้อย่างใกล้ชิด ลักษณะของตัวองค์เจดีย์ เป็นฐานเขียงยกระดับขึ้นมา ใช้รูปแบบเจดีย์ทรงลังกาเป็นต้นเค้าความคิด อันเป็นพระราชนิยมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นองค์สถาปนาธรรมยุตินิกาย และนำมาพัฒนาแนวความคิดที่จะให้องค์เจดีย์ดูเรียบง่ายและดูทันสมัย รวมทั้งเครื่องลำยองที่เลือกใช้เป็นในลักษณะที่มีความเรียบง่ายดูทันสมัยและดูแลรักษาได้ เพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับองค์ประกอบโดยรวมของทางวัด

องค์เจดีย์มีซุ้มจรณัม 4 องค์ เจดีย์ประธานประดิษฐานบนฐาน 8 เหลี่ยม สื่อถึงพระบรมโพธิสมภารแผ่ไพศาลไปทั่ว 8 ทิศ พระเจดีย์เป็นสีขาว ให้รู้สึกถึงความเบาสบาย ไม่ใช้ซุ้มหน้าต่างที่มีการประดับตกแต่งมาก เลือกใช้เพียงกรอบเช็ดหน้าประดับด้วยลูกกรงภายนอกเพื่อความปลอดภัยของวัตถุ จัดแสดงไปพร้อมกัน มีการประดับตกแต่งขององค์ประกอบองค์เจดีย์ประธานที่ต้องเน้นความสำคัญเท่านั้น การตกแต่งภายในห้องประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ออกแบบให้จุดศูนย์กลางของห้องประดิษฐานบุษบก มีการบรรจุพระสารีริกธาตุ มีการตกแต่งอย่างเรียบง่าย เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาสักการะ รู้สึกระลึกถึงความเงียบสงบของพระเจดีย์

พิกัดวัดมหาธาตุแหลมสัก https://maps.app.goo.gl/tevHP9tTY1Xj7M259

ข้อมูลจาก https://watlamsak.org