ในยุคนี้ หากจะพูดคำว่า Web หรือ Website ก็คงแทบไม่มีใครรู้จัก เพราะเป็นคำที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุใดก็ตาม โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต แต่หากจะพูดถึงคำว่า เว็บแอพ หรือ Web Application แล้ว หลายคนอาจจะยังงงอยู่ว่า มันคืออะไร แล้วแตกต่างจากเว็บไซต์ปกติทั่วไปยังไง

วันนี้ แอดมินจึงขอนำคำอิบายเพิ่มเติม เพื่อไขข้อข้องใจว่า เว็บแอพ นั้น ต่างจาก เว็บไซต์ อย่างไร แล้วที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ อะไรคือเว็บแอพ และอะไรคือเว็บไซต์กันแน่

Web Application คืออะไร?

Web Application คือแอพที่ถูกเขียนขึ้นมาให้สามารถเปิดใช้ใน Web browser ได้โดยตรง โดยที่ไม่ต้องโหลด Application แบบเต็มๆ ลงเครื่อง ซึ่งจะทำให้โดยรวมแล้วกินทรัพยากรค่อนข้างต่ำ สามารถเปิดใช้งานได้ไว

แน่นอนว่าภายในตัว Web Application มักถูก Optimize ให้มีการทำงานรวดเร็วกว่าการเปิด Application แบบปกติ จึงมีหน้าตาที่เป็นมิตรและใช้งานค่อนข้างง่าย ซึ่งในปัจจุบันมี Web Application หลากหลายมาก มีการนำไปงานระดับโลก ระดับมหาวิทยาลัย ไปจนถึงระดับบริษัท ต่างก็มีเว็บแอพเป็นของตัวเองเช่นกัน

ความเหมือนที่แตกต่างของ Website และ Web Application

ทำไมคนจึงเข้าใจผิดว่า Website และ Web Application นั้นเหมือนกัน ? ในเมื่อ เว็บไซต์ และเว็บแอพ ต่างก็ถูกเปิดจากที่เดียวกัน นั่นก็คือ Web Browser นั่นเอง ซึ่งก็ไม่แปลกที่ใครๆ ก็สับสน แต่รู้หรือไม่ว่า เว็บไซต์ ในตอนนี้ ก็ล้วนถูกปรับเปลี่ยนให้เป็น Web Application กันเกือบหมดแล้ว

เพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้น เราลองมาดูกันดีกว่าว่า ความแตกต่างของ เว็บไซต์ และ เว็บแอพ นั้นมีอะไรบ้าง

แง่ของการใช้งาน

  • เว็บไซต์ : คือหน้าเพจที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูล สารสนเทศ และมีการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเว็บเพจย่อยๆ ต่างๆ ตามแต่รูปแบบของเว็บไซต์นั้นได้กำหนดและตั้งค่าไว้ โดยเว็บไซต์นี้ ส่วนใหญ่จะเน้นให้ผู้คนเข้ามา “ดู” เป็นหลัก
  • เว็บแอพ : ทำหน้าที่คล้ายกับเว็บไซต์ แต่จะสามารถเป็นแอพพลิเคชั่นได้ด้วย คือเน้นให้ผู้คนเข้ามา “ใช้งาน” มากกว่าดู เช่น เว็บแอพสำหรับคิดเลข เว็บแอพสำหรับจับเวลา เว็บแอพสำหรับแปลภาษา โดยส่วนมากแล้ว จะมีความสะอาด รวดเร็ว และสบายตากว่าเว็บไซต์ปกติ เนื่องจากเน้นใช้งานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นหลัก

ลักษณะหน้าตาภายนอก

  • เว็บไซต์ : มักเน้นความสวยงาม ดึงดูด บางเว็บก็มีความซับซ้อนบ้างพอประมาณ มีลิงค์ต่างๆ เพื่อให้คนที่เข้ามาสามารถเปิดดูเว็บเพจภายในเว็บไซต์ได้
  • เว็บแอพ : มุ่งไปที่ความเรียบง่าย สะอาด บางครั้งหน้าเว็บแอพพลิเคชั่นก็จะแสดงโปรแกรมและฟังก์ชั่นต่างๆ ขึ้นมาตรงๆ แบบไม่ตกแต่งอะไรมาก เนื่องจากต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานมันได้อย่างรวดเร็วที่สุด

การทำงานเบื้องหลัง

  • เว็บไซต์ : โดยรวมแล้วหน้าเว็บไซต์แต่ละหน้ามักมีความซับซ้อนค่อนข้างต่ำ จะหนักไปในเชิงการตกแต่งและจัดรูปแบบให้เหมาะสมกับความชอบของผู้เข้าชมหรือเหมาะกับเนื้อหาในเว็บนั้นๆ
  • เว็บแอพ : มีความซับซ้อนและยุ่งยาก อาจต้องใช้ผู้มีเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อจัดการและออกแบบแอพพลิเคชั่น รวมถึงฟังก์ชั่นภายในให้ใช้งานได้ง่าย จะออกแบบอย่างไรให้สิ่งที่ซับซ้อน กลายเป็นสิ่งที่คนไม่เคยใช้ก็ ‘ใช้งานได้’

เพียงเท่านี้คงทำให้หลายคนคลายความสงสัย และพอจะเข้าใจระดับหนึ่งแล้วว่าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันแบบไหน

การทำงานของเว็บแอพ

โดยทั่วไปหากคุณไม่ใช่คนทำงานเบื้องหลังแล้วละก็ อาจเข้าใจว่าการสร้างเว็บแอพนั้นง่ายและคงไม่แตกต่างจากการสร้างเว็บไซต์เท่าไหร่ แต่เราลองมาเจาะลึกกันดูดีกว่าว่า ภายใต้ความสะดวกสบายในหน้าตาเรียบง่ายนั้น มีเบื้องหลังอย่างไรบ้าง

ส่วนประกอบในการทำงานของเว็บแอพ

เว็บแอพนั้น จะมีส่วนประกอบการทำงานหลักๆ ที่เห็นกันได้ 4 ส่วน ได้แก่

  1. Web Application: ตัว Web Application ที่ทำหน้าที่เป็นด่านแรกสุดในการรับข้อมูลจากฝั่งผู้ใช้งาน ซึ่งจะมีการสร้างหรือดัดแปลงการใช้งานไปได้หลากหลายทาง เช่น การคำนวณค่าต่างๆ, ระบบ Membership, ระบบซื้อขายแบบ eCommerce, ระบบ Payment Gateway (การชำระเงิน), ระบบแผนที่ หรือมุมกล้อง 360 องศา, ระบบเก็บข้อมูล CRM และอีกหลายจุดประสงค์ ขึ้นอยู่กับว่าคนสร้างต้องการให้ตัวเว็บแอพนั้นมีการใช้งานไปในทิศทางใด
  2. Web Browser: เครื่องมือในการเปิด Web Application ซึ่งมีหลากหลายตัวเลือก เช่น Google Chrome Firefox หรือ Microsoft Edge เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันเบราเซอร์เหล่านี้สามารถทำงานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน
  3. Web Server: ระบบ Server ที่ให้บริการแก่บรรดาเว็บไซต์และเว็บแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทำหน้าที่รับส่งข้อมูลจากฝั่งผู้ใช้งานและฝั่ง Web Application ตัวอย่างที่ได้พบบ่อยๆ คือ Apache Webserver และ IIS Web server
  4. Database: ฐานข้อมูลจากฝั่งผู้ให้บริการ ซึ่งจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่จำเป็น โดยในบางครั้งมีการทำ Database Server แยกออกมาต่างหาก เพื่อความสะดวกในการควบคุมดูแล และความปลอดภัยของตัว Web Application

หลักการทำงาน

ผู้ใช้งานจะใช้งาน Web Browser เพื่อทำการใช้งาน Web Application ซึ่งตัวเว็บแอพจะทำการดึงข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้งานผ่าน Web Server และทาง Web server ก็อาจมีการดึงข้อมูลที่จำเป็น เช่น ข้อมูลผู้ใช้ ข้อมูลลูกค้าผ่าน Database อีกทีหนึ่ง

สรุป

แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเพียงการอธิบายคร่าวๆ สำหรับการทำงานของแต่ละอย่างเท่านั้น และส่วนประกอบในการทำงานทั้งหมดอาจมีการเปลี่ยนแปลงเชิงลึกได้ตามความถนัด ความชำนาญ ไปจนถึงงบประมาณและค่าใช้จ่ายสำหรับทำเว็บแอพของผู้ว่าจ้างเลยว่า จะมีงบเท่าไหร่ ต้องการรายละเอียดในแบบไหน

เพราะข้อสำคัญในการทำเว็บแอพ คือ การ “สร้างสิ่งที่ต้องการ ซึ่งสามารถเปิดผ่าน Web Browser ได้” ดังนั้นสิ่งที่จะถูกรังสรรค์ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเกม เว็บแอพการเดินทาง คำนวณสินเชื่อ ไปจนถึงติดตามข่าวซุบซิบดารา ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น และแทนที่คุณจะเสียเงินทำเว็บไซต์ แล้วเสียเงินค่าแอพพลิเคชั่นเพิ่มต่างหาก จะดีกว่าไหมหากคุณสร้าง Web Application ทีเดียว ให้เป็นได้ทั้งแอพบนมือถือ และเว็บไซต์ไปด้วยในตัว ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่าง ‘ครบวงจร’

………..

Phuket Innovative Development ยินดีให้บริการ เรารับทำโปรแกรม เว็บไซต์ แอพมือถือ ในรูปแบบที่คุณพอใจ

บริการของเรา: Web App, Mobile App, Website,  E-Book งานสื่อสิ่งพิมพ์ และแพลทฟอร์มอื่นๆ

โปรแกรมต่างๆ สำหรับใช้บริหารงานในองค์กร อาทิ โปรแกรมบัญชี, โปรแกรมบริหารงานบุคคล, โปรแกรมบริหารคลีนิค, โปรแกรมโรงแรม, POS Point of sales, โปรแกรมโรงงาน, โปรแกรมสปา, โปรแกรมบริหารหอพัก, โปรแกรมบริหารร้านอาหาร ฯลฯ

Phuket Innovative Development Co., Ltd. ได้รับมาตรฐาน ISO/IEC29110 และรางวัลการันตีมากมาย 

สอบถามรายละเอียดได้ที่: 093 696 4498

E-mail: mongkontep@pkindev.com, Website: www.pkindev.com, Line OA: https://lin.ee/po8XduU