ปี 2024 เป็นช่วงที่โลกกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ยุคที่ AI และเทคโนโลยีเชื่อมต่อจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในทุกด้านของชีวิต ทั้งการทำงาน การศึกษา การให้บริการ และการรักษาความปลอดภัย นวัตกรรมเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการเติบโตในอนาคต และเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นวัตกรรมใหม่ๆ ดังกล่าว มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ
1. Democratized Generative AI – Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) ในการสร้างเนื้อหาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ ข้อความ หรือเสียง การที่ AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กที่มีทรัพยากรจำกัด สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่ใหญ่ขึ้น เทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เช่น การสร้างโฆษณาเฉพาะบุคคล หรือการทำสื่อออนไลน์ที่น่าสนใจโดยไม่ต้องจ้างทีมงานใหญ่
2. AI Trust, Risk and Security Management (TRiSM) – การใช้ AI ในการจัดการความเสี่ยงและความปลอดภัย มีบทบาทสำคัญในการปกป้องข้อมูลภายในองค์กร AI สามารถเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตและคาดการณ์ความเสี่ยงในอนาคตได้ เช่น การตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้ใช้งาน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการโจมตีไซเบอร์ นอกจากนี้ AI TRiSM ยังช่วยใหเองค์กรจัดการกับกฏระเบียบด้านความปลอดภัยได้ง่ายขึ้น เช่น การปฏิบัติตาม GDPR หรือการปกป้องข้อมูลที่สำคัญในระบบการเงินและสุขภาพ
3. AI – Augmented Development – ในยุคที่เทคโนโลยีซอฟต์แวร์มีความซับซ้อนมากขึ้น การใช้ AI เข้ามาช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์ จะเป็นตัวช่วยสำคัญ AI ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบซอฟต์แวร์ได้อัตโนมัติ ทำใหฌลดโอกาสการเกิดข้อผิดพลาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด อีกทั้ง AI ยังช่วยลดการวิเคราะห์โครงสร้างของซอฟต์แวร์เพื่อหาแนวทางการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วขึ้น ลดต้นทุนและเวลาที่ต้องใช้ในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่
4. Intelligent Applications – Intelligent Application หรือแอปพลิเคชันที่ฉลาดขึ้น มีการนำ AI เข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำงานภายในแอป ทำให้แอปเหล่านี้สามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้และปรับตัวเพื่อให้บริการที่ตรงกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้งาน AI ในแอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์ที่สามารถแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคลตามพฤติกรรมการซื้อ หรือการใช้ AI ในแอปพลิเคชันสุขภาพที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้และให้คำแนะนำส่วนตัวได้
5. Augmented – Connected Workforce (ACWF) – การนำ AI มาประยุกต์ใช้ในแรงงานทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างคนกับเครื่องจักรหรือซอฟต์แวร์ที่ฉลาดขึ้น AI จะช่วยวิเคราะห์การทำงานของแต่ละบุคคลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและปรับปรุงทักษะเฉพาะด้านให้ตรงตามความต้องการขององค์กรมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ทรัพยากรบุคคลได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น ลดการสูญเสียเวลาในการฝึกอบรมแบบดั้งเดิม และปรับตัวได้รวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ
6. Continuous Threat Exposure Management (CTEM) – ในโลกที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การใช้ระบบจัดการภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง (CTEM) จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้องค์กรสามารถประเมินและจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์ ระบบเหล่านี้สามารถตรวจจับและบล็อกการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น ฟิชชิ่ง สแกม หรือ มัลแวร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การรักษาความปลอดภัยในโลกออนไลน์เป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากและช่วยลดโอกาสที่ข้อมูลขององค์กรจะถูกโจมตี
7. Machine Customers – Machine Customers หรือ custobots คือ AI ที่ออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อหรือผู้ให้บริการในธุรกิจแทนมนุษย์ เช่น การใช้ AI ในการสั่งซื้อสินค้า การตอบคำถามลูกค้า หรือการเสนอแนะผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคล ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ทำให้ประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าราบรื่นและรวดเร็วมากขึ้น ในอนาคต ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในภาคค้าปลีกและการบริการ จะหันมาใช้ custobots มากขึ้นเพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
8. Sustainable Technology – การพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบันไม่เพียงแต่เน้นประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง AI, IoT และ Cloud Storage มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้พลังงานหมุนเวียนหรือการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานต่ำจะเป็นสิ่งที่หลายองค์กรมุ่งเน้นในปี 2024 เพื่อให้ธุรกืจสามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับหลัก EGS (Environment, Social, and Governance)
9. Platform Engineering – Platform Engineering เป็นการออกแบบแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนิธุรกิจ AI ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและปรับปรุงบริการแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับบริการที่ดีที่สุด การใช้ AI ในการออกแบบแพลตฟอร์มยังช่วยลดความซับซ้อนในการพัฒนาและทำให้ธุรกิจสามารถพัฒนาและปรับใช้แพลตฟอร์มใหม่ได้รวดเร็วขึ้น
10. Industry Cloud Platform – Industry Cloud Platforms คือการใช้เทคโนโลยี Cloud Storage ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม เช่น การผลิตหรือการก่อสร้าง ที่ใช้ Cloud ช่วยในการเชื่อมต่อและวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องจักรในโรงงานแบบเรียลไทม์ ทำให้อุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ Cloud ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับขนาดการทำงานได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการอีกด้วย
ที่มา : krungsri.com
หากคุณต้องการให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าบนโลกออนไลน์ สร้างผลลัพธ์ทางการตลาดได้อย่างยั่งยืน เรายินดีให้คำปรึกษาในสิ่งที่คุณต้องการ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
Tel. 093 696 4498
Line OA: https://lin.ee/po8XduU
Website: www.pkindev.com
E-mail: mongkontep@pkindev.com
Phuket Innovative Development Co., Ltd. ได้รับรางวัลการันตีมากมาย
“INNOVATIVE MAKE THINGS BETTER”