ภูเก็ต – วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิดนิทรรศการศิลปะ “ไอ้จุด” Lovely Lucky I-Jud No. 13 โดยมีนางสาวปพัชร์ศร มีปา ประธานกรรมการ และผู้ก่อตั้งบริษัทภูเก็ตไนน์ เรียลเอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด นายวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ศิลปินรางวัลศิลปาธร ประจำปี 2553 สาขาศิลปะการออกแบบ นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการสมาคมศิลปินภูเก็ต เครือข่ายศิลปินและสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ มิกซ์มอลล์ หาดราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้รับการถูกคัดเลือก ให้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ หรือ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2568 ถึงเดือนเมษายน 2569 ซึ่งเป็นมหกรรมศิลปะร่วมสมัยที่ยิ่งใหญ่ คาดว่าจะมีคนที่รักงานศิลปะจากทั่วโลกเดินทางมาเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยกันส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้านการท่องเที่ยวด้วยมิติทางวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมวัฒนธรรมไทย หรือ Soft Power ของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก และสร้างภาพลักษณ์เกียรติภูมิ และยกระดับศิลปวัฒนธรรมของไทยสู่ระดับนานาชาติได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวอีกว่า การที่งานศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovely Lucky I-Jud No. 13 ได้เดินทางมาจัดแสดง ณ มิกซ์มอลล์ หาดราไวย์ ในครั้งนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของงานศิลปะร่วมสมัยที่สร้างการรับรู้ในคุณค่าของงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ เป็นจุดเริ่มของการกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ ซึ่งเป็นแนวคิดของงานศิลปะชิ้นนี้ โดยนายวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ศิลปินรางวัลศิลปาธร ถือว่าเป็นศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีผลงานศิลปะจัดแสดงไปทั่วโลก ที่มีชื่อเสียง เคยแสดงผลงานทั้งในและต่างประเทศมากมาย อาทิ งานเวนิส เบียนาเล่ ที่อิตาลี เทศกาลงานศิลปะที่ใหญ่ที่ของโลกในนามตัวแทนประเทศไทย
สำหรับประติมากรรม “ไอ้จุด” Lovely Lucky I-Jud เริ่มแรกนั้นทำจากเซรามิกขนาดเท่าลูกสุนัขซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานชุด Coming closer ที่ประกอบไปด้วยปราสาทแบบเยอรมัน คนแคระ โถไทย เด็กไทย และ “ไอ้จุด” ที่เป็นลูกหมาพันธุ์ไทย ที่นับเป็นส่วนหนึ่งของ Street culture ของไทย ซึ่งงานนี้ได้ถูกนำไปจัดแสดงที่กรุงเทพ และกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในปี พ.ศ. 2550 และถูกนำกลับมาแสดงอีกครั้งในนิทรรศการ รอยยิ้มสยาม งานเปิดหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2551 ที่ ”ไอ้จุด”ถูกเพิ่มบริบทเพิ่มขึ้น หลังจากการเริ่มมีคำว่าศิลปะร่วมสมัยเข้ามาอยู่ในสังคมไทยมากขึ้น และขยายเข้าถึงคนในวงกว้างกว่าเดิม ไอ้จุดกลายเป็นตัวแทนของความรู้สึกเหล่านี้ ความอยากรู้อยากเห็น ในงาน รอยยิ้มสยาม ประติมากรรมดินเผา “ไอ้จุด” จึงได้กระจายไปตามงานศิลปะชิ้นต่างๆ ทั่วหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้คนรู้จักประติมากรรมชิ้นนี้มากขึ้น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 SCG Chemicals ได้พัฒนาวัสดุตัวใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเรซินหรือไฟเบอร์กลาส เรียกว่า อะคิลิกไซรับ (Acrylic syrup) ได้นำเอา “ไอ้จุด” มาสร้างเป็นประติมากรรม สูง 3 เมตร และ “ไอ้จุด” ได้เริ่มออกเดินทางครั้งแรกที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการเข้ามามากขึ้นของศิลปะร่วมสมัยในสังคมไทย และในปีเดียวกันประติมากรรม “ไอ้จุด” ได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดราชบุรีซึ่งเป็นแหล่งผลิตประติมากรรมไอ้จุด เมื่อโครงการที่จะสร้างประติมากรรมให้จังหวัดราชบุรีได้เริ่มขึ้น เพื่อสื่อและเป็นสัญลักษณ์ว่า ไม่ใช่เฉพาะที่เมืองหลวง แต่ทุกๆ ที่ในประเทศไทย แม้แต่เมืองเล็กๆ อย่างราชบุรี ก็จำเป็นต้องมีคำว่า ศิลปะเข้ามาอยู่ในวิถีการดำเนินชีวิตของคนในชุมชน
นอกจากนี้ ประติมากรรมได้ถูกเลือกให้สร้างและนำไปติดตั้งที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี เนื่องจากเป็นประติมากรรม ที่ดูง่าย ไม่ซับช้อน ทำให้คนที่แม้ไม่ได้มีพื้นฐานและความสนใจทางด้านศิลปะมาก่อน สนใจและเข้าถึงได้ง่าย อันจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงโดยใช้งานศิลปะร่วมสมัย เพื่อเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ชม ให้เข้าไปเรียนรู้กับงานที่เป็นประวัติศาสตร์และความทรงจำของชุมชนที่สะสมอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี และจัดแสดงในสถานที่ต่างๆ เช่น หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม