ในยุคนี้ สิ่งที่เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในวงการเทคโนโลยีหรือแม้แต่สังคมโลกออนไลน์ ก็คือ AI หรือภาษาไทยเรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ซึ่งแม้ว่า AI จะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ มันก็ยังไม่มีประสิทธิภาพและถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายดังเช่นปัจจุบัน ตัวอย่าง AI ที่เห็นได้ชัดคือ ChatGPT ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาและช่วยให้เราส่ามารถทำงานได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น วันนี้เรามาพูดถึง AI ที่ถูกนำมาใช้ในธุรกิจต่างๆ ซึ่งมีตัวอย่างดังนี้

1.โมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI – ปัจจุบันมีการพัฒนา AI ที่นำมาใช้ในธุรกิจให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น เช่น จากเดิม AI ที่สามารถทำนายผลจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ ก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลในเชิงลึกยิ่งขึ้น แนวโน้มที่จะได้เห็นในอนาคตคือ AI ทำนายข้อมูลจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่นำเสนอคุณค่าขององค์กรได้ เช่น Midjourney พัฒนา AI ที่สามารถผลิตภาพจากคำสั่งของผู้ใช้ว่า ภาพควรจะต้องมีลักษณะอย่างไร หรือ ChatGPT ที่คาดการณ์คำตอบที่เหมาะสมกับคำสั่งของผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม จากรายงาน Tech Trends 2024 พบว่าองค์กรด้านไอทีส่วนใหญ่กำลังวางแผนใช้งาน AI ในการช่วยขับเคลื่อนด้านกลยุทธ์ของธุรกิจในปี 2024 โดย 66% ของบริษัทที่เลือกลงทุนไปกับ AI คาดว่า AI จะสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อบริษัทของตนเอง และมีเพียง 3% ของผู้ที่ยังไม่เชื่อมั่นใน AI เท่านั้นที่รู้สึกว่า AI เป็นภัยคุกคามเสียมากกว่า และสำหรับผู้ที่เชื่อมั่นในการใช้ AI เชื่อว่า ในปี 2024 AI จะเป็นตัวกำหนดกลยุทธธุรกิจหลายๆ ด้าน

2. ระบบหลังบ้านอัตโนมัติ – ก่อนนี้ฝ่ายไอทีมีบทบาทขับเคลื่อนระบบธุรกิจให้อยู่ในรูปแบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบสามารถทำงานและควบคุมตนเองในการดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทได้ แต่เมื่อมี Generative AI งานใหม่ๆ หลากหลายชนิดก็สามารถทำได้โดยอัตโนมัติมากขึ้น AI โมเดลสามารถประมวลผลข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างได้ในปริมาณมาก อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การใช้เพื่อจัดประเภทข้อความ แก้ไขข้อความ สรุปเนื้อหา สร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ และอื่นๆ ได้อีกมากมาย มีรายงานว่า 1 ใน 3 ขององค์กรส่วนใหญ่ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการปฏิบัติงาน ได้มีการใช้ AI สำหรับงานที่มีกระบวนการทำซ้ำและงานระดับต่ำให้อยู่ในรูปแบบอัตโนมัติแล้ว ส่วนที่เหลือวางแผนจะใช้ AI ทำเช่นนั้นในปี 2024

3. การประมวลผลเชิงพื้นที่ – เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการคำนวณเชิงพื้นที่และผสานวัตถุทางกายภาพและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับคอนเทนต์ดิจิทัลในพื้นที่รอบๆ ได้ การประมวลผลเชิงพื้นที่ ใช้การโต้ตอบตามธรรมชาติ เช่น ท่าทาง เสียง และสายตา ผ่านการใช้อุปกรณ์อย่าง แว่นตา AR (Augmented Reality) หรือชุดหูฟัง VR (Virtual Reality) แทนที่การใช้อุปกรณ์ส่วนต่อแบบเดิมอย่าง คีย์บอร์ด หรือเมาส์ ตัวอย่างเช่น Apple บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ที่ได้เปิดตัวสินค้า Spatial Computing ใหม่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งเทคโนโลยีนี้คือระบบที่จะผสานวัตถุทางกายภาพและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกันนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม AI เป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก หากธุรกิจใดที่ยังไม่ได้เริ่มต้นศึกษาหรือนำ AI มาปรับใช้ในองค์กรอย่างจริงจัง อาจพลาดโอกาสในการพัฒนาธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถึงแม้ว่า เราจะสามารถนำ AI มาช่วยงานได้อย่างหลากหลาย แต่งานบางประเภทก็ยังจำเป็นต้องใช้คนทำต่อไป เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้และอัพเดทในสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ที่มา: visai.ai.th

หากต้องการให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงการใช้งานระบบภาษีได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องดูแลเซิร์ฟเวอร์ด้วยตนเอง เรายินดีให้คำปรึกษาในสิ่งที่คุณต้องการ และทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น ติดต่อเราได้ที่ 093 696 4498 E-mail: mongkontep@pkindev.com, Website: www.pkindev.com, Line OA: https://lin.ee/po8XduU

Phuket Innovative Development Co., Ltd. ได้รับมาตรฐาน ISO/IEC29110 และรางวัลการันตีมากมาย

INNOVATIVE MAKE THINGS BETTER