SEO หรือ Search engine optimization คือกระบวนการเพิ่ม Traffic เข้าสู่เว็บไซต์ (ของคุณ) ด้วยวิธีการต่างๆ หรือโดยย่อก็คือ กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อทำอันดับบนหน้าเสิร์ช เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณไปปรากฏเป็นผลการค้นหาอันดับหนึ่งหรือหน้าแรกของ Google เพราะโดยปกติแล้วเว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่ใน Search Engine ในลำดับแรกๆ มักจะถูกคลิกบ่อยกว่าเว็บไซต์ที่อยู่ด้านล่างหรืออยู่หน้าถัดไป

โดยปกติแล้วเป้าหมายการทำ SEO นั้นมีอยู่หลายที่ เช่น การค้นหารูป, การค้นหาวิดีโอ แต่สิ่งที่คนเราส่วนมากใช้ในชีวิตประจำวันมากที่สุดก็คือ Web Search พูดง่ายๆ ก็คือ SEO คือการทำสงครามระหว่าง Web Master ทั้งหลาย เพื่อช่วงชิงตำแหน่งสูงๆ ของผลลัพธ์ในการค้นหาจาก Search Engine ชื่อดังต่างๆ โดยมี Keyword เป็นอาวุธนั่นเอง

ประโยชน์ของการทำ SEO

ง่ายๆ ก็คือ เพิ่มโอกาสให้คนเข้าเว็บไซต์ของเรามากขึ้น เมื่อคนเข้ามาเยอะก็จะเพิ่มโอกาสที่คนจะมารู้จักแบรนด์ ซื้อของ หรือติดต่อทำธุรกิจกับเรามากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทุกธุรกิจไม่ควรพลาดทำ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ไม่ว่าใครก็เสิร์ชค้นหาสิ่งที่ต้องการผ่าน Search Engine ทั้งหลาย

แล้ววิธีการทำ SEO ต้องทำอะไรบ้าง

อย่างที่บอกไปแล้วว่า SEO คือการปรับแต่งเว็บไวต์ให้เหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา ซึ่งการปรับแต่งที่ว่า ประกอบไปด้วย

  • การทำคอนเทนต์
  • การออกแบบเว็บไซต์
  • การปรับแต่งในเชิงเทคนิค
  • การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์

โดยยิ่งปรับแต่งเว็บไซต์ได้เหมาะกับเครื่องมือค้นหา (Search Engine) หรือ Google ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ทำอันดับได้ดีขึ้นบน Search Engine นั้นๆ

นอกจากนี้ การทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าเสิร์ช (SEPRs) ยังเป็นวิธีการเข้าถึงลูกค้าที่เหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะซื้อของ เลือกร้านใช้บริการหรือร้านอาหาร จะท่องเที่ยว หรือมีปัญหาอะไร ผู้คนก็จะเสิร์ชหาข้อมูลด้วยตัวเองก่อนแทบจะทุกราย นี่จึงเป็นโอกาสให้แบรนด์เข้าถึงผู้คนอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นการดึงดูดลูกค้าเข้ามาเอง และไม่ใช่การทำการตลาดที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกถูกรบกวน

ทำไมธุรกิจถึงควรลงทุนทำ SEO

  1. การทำ SEO ตอบโจทย์พฤติกรรรมการเสิร์ชของลูกค้า ไม่ว่าจะหาหรือก่อนจะซื้ออะไร คนในยุคนี้มักจะเสิร์ชหาข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนเสมอ ซึ่งมันเร็วกว่าการเดินไปหน้าร้านและสอบถาม ดังนั้น การทำ SEO หรือการทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับดีๆ ให้ลูกค้าเข้ามาเจอเว็บไซต์ อ่านคอนเทนต์ ได้ข้อมูลช่วยตัดสินใจ จึงตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพิ่มโอกาสในการขาย โดยที่พนักงานขายอาจจะไม่ต้องทำงานเลยก็ได้
  2. เข้าถึง ‘กลุ่มเป้าหมายที่ใช่’ คนจะเสิร์ชหาสิ่งที่เขาสนใจอยากได้ข้อมูล ดังนั้น หากเขาเสิร์ชมาเจอคอนเทนต์จากเว็บไซต์ของธุรกิจ แสดงว่า เขากำลังมีปัญหาที่ธุรกิจของเราอาจช่วยเขาได้ หรือเขากำลังสนใจมองหาทางแก้ปัญหาในเรื่องนั้นๆ อยู่ ธุรกิจก็สามารถสอดแทรกโปรดักต์หรือบริการ เสนอธุรกิจเป็นโซลูชันให้เขา เพิ่มโอกาสการขายได้มากกว่าการทำการตลาดแบบมวลชน (Mass Marketing)
  3. SEO เป็นการทำการตลาดที่ถูกและได้ผลยั่งยืน การทำ SEO มีค่าใช้จ่ายที่ถูกมากๆ เมื่อเทียบกับการทำการตลาดเชิงแคมเปญ หรือการพึ่งพาการทำโฆษณา ซึ่งงบประมาณทำโฆษณาส่วนใหญ่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ การทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับยังสามารถนำพาลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาหาธุรกิจได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินในการทำเพิ่ม มีเพียงการรักษาอันดับ ซึ่งใช้แรง เวลา และงบประมาณน้อยกว่าการทำโฆษณาหรือคิดแคมเปญกระตุ้นการขายใหม่ๆ มาก

องค์ประกอบในการทำ SEO มีอะไรบ้าง

การทำ SEO มีหลายเรื่องที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์ให้ถูกใจทั้งคนที่เข้ามาอ่านและอัลกอริทึม (Algorithm หรือ ระบบเรียนรู้ประมวลผลของ Search Engine) รวมไปถึงการปรับแต่งเว็บไซต์ในเชิงเทคนิคที่ทำให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์และคัดเลือกไปนำเสนอให้ผู้เสิร์ช

โดยองค์ประกอบของการทำ SEO ประกอบไปด้วย

  1. การทำ On-page SEO หมายถึง การทำ SEO บนเว็บไซต์ของเราเอง ซึ่งมีหลายเรื่องที่เราต้องทำ โดยจุดประสงค์สำคัญของการทำ On-page SEO ได้แก่ การทำเว็บไซต์ให้เป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานและใช้งานง่าย และการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ Crawl Bot ของ Search Engine เข้าใจเนื้อหาบนหน้าเว็บได้ง่ายและชัดเจนที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสให้ Bot คัดเลือกเว็บไซต์ของเราไปจัดอันดับดีๆ
  2. การทำ Off-page SEO หมายถึง การทำ SEO จากเว็บไซต์อื่น โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “การทำ Backlink” หรือการที่เว็บไซต์อื่นส่งลิงก์อ้างอิงกลับมาให้กับเว็บไซต์ของเรา โดยประโยชน์ของการทำ Backlink หรือ Off-page SEO คือ ทำให้ Crawler Bot ของ Google เห็นถึงความเกี่ยวข้องของเนื้อหา ผ่านการเข้าไปศึกษาเว็บไซต์ที่ส่งลิงก์มา และยังเพิ่มคะแนน Authority หรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์จากการที่มีเว็บไซต์อื่นแนะนำหรืออ้างอิงเว็บไซต์ของเรา
  3. การทำ Technical SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ในเชิงเทคนิคเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ให้ Crawl Bot เข้ามาสำรวจและเข้าใจเว็บไซต์ว่าอะไรคืออะไรได้ง่ายขึ้น รวมถึงการปรับเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ผู้ใช้งานใช้ได้รวดเร็ว ลื่นไหล เป็นองค์ประกอบของการทำ SEO ที่ต้องอาศัยความเรื่องทางเทคนิคและการโคดดิ้ง

สรุปแล้ว SEO จำเป็นกับธุรกิจหรือไม่ เราควรจ้าง SEO Agency ดีมั้ย ?

แน่นอน ในเมื่อ SEO คือ การทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Search Engine หรือ Google เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นที่รู้จักของธุรกิจของคุณ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญสำหรับใช้ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัลจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้กลยุทธ์ SEO นี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญการทำการตลาดออนไลน์ เพราะจะช่วยทำให้ลูกค้าเข้าใจโปรดักต์และบริการของธุรกิจมากขึ้น เป็นการเข้าถึงลูกค้าแบบ Inbound ตรงกับพฤติกรรมของผู้คนที่มักจะเสิร์ชหาสิ่งที่ต้องการก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ การทำ SEO ยังให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน สามารถนำลูกค้ามาให้ธุรกิจได้เรื่อยๆ และใช้งบการตลาดน้อยกว่าการทำการตลาดแบบดั้งเดิม

ข้อดีของการจ้าง SEO Agency

  • SEO Agency มีการวิเคราะห์โครงสร้างอย่างละเอียด โดยวิเคราะห์เว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน Technical, On-Page และ Off-Page เพื่อปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ การทำ SEO ที่สุด
  • มีการวิเคราะห์คู่แข่งทางธุรกิจ การทำ SEO ให้ติดหน้าแรกนั้นจำเป็นต้องวิเคราะห์คู่แข่งที่มีอันดับสูงกว่าเพื่อนำมาเป็นเป้าหมายในการลงมือทำ ซึ่ง SEO Agency มีเครื่องมือที่ครบครันในการวิเคราะห์คู่แข่ง
  • SEO Agency คือ ศูนย์รวมของนักทำ SEO มืออาชีพ โดยจะมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้าน SEO และมีประสบการณ์การทำงานกับธุรกิจใหญ่ ๆ จำนวนมากทำให้สามารถแก้ไขปัญหาและทำงานได้อย่างตรงจุด

วิธีที่เราได้เอามาแบ่งปันตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น คือสิ่งที่คุณสามารถทำเองได้ไม่ยาก แต่บางครั้งการทำ SEO อาจจะต้องใช้การวิเคราะห์เชิงลึก หรือเวลาที่ค่อนข้างนาน การใช้บริการ SEO Agency จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่า ที่จะช่วยให้การทำ SEO เห็นผลได้ดียิ่งขึ้น และสามารถประหยัดเวลาได้อย่างมาก

หากคุณต้องการให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าบนโลกออนไลน์ สร้างผลลัพธ์ทางการตลาดได้อย่างยั่งยืน เรายินดีให้คำปรึกษาในสิ่งที่คุณต้องการทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น ติดต่อเราได้ที่ 093 696 4498

E-mail: mongkontep@pkindev.com, Website: www.pkindev.com, Line OA: https://lin.ee/po8XduU

Phuket Innovative Development Co., Ltd. ได้รับมาตรฐาน ISO/IEC29110 และรางวัลการันตีมากมาย